ประเทศไทยลงทุนด้านการศึกษาน้อยอยู่แล้ว เราจึงต้องใช้เงินให้ถูกทางและเกิดประสิทธิผลมากขึ้น
ประเทศไทยลงทุนด้านการศึกษาน้อยอยู่แล้ว เราจึงต้องใช้เงินให้ถูกทางและเกิดประสิทธิผลมากขึ้น
Q: หากไทยเรายกระดับการศึกษาได้จริง จะมีผลต่อความอยู่ดีกินดีของคนไทยอย่างไร?
A: Professor Eric A. Hanushek แห่งสถาบัน Hoover Institute มหาวิทยาลัย Stanford ได้คาดไว้ว่า หากไทยสามารถยกระดับผลการสอบ PISA ได้ 25 คะแนน จะส่งผลบวกทางเศรฐกิจเป็นมูลค่าปัจจุบัน Present Value ถึง 267% ของ GDP (คิดเป็น ~37 ล้านล้านบาท = GDP 14 ล้านล้านบาท x 267%) หรือ GDP ต่อหัวจะเพิ่มขึ้น 5.7% ตลอด 80 ปีข้างหน้า หรือ รายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 11% สำหรับแรงงานไทยทุกคน
Q: หากไทยเราต้องการยกระดับการศึกษา เราต้องทำอะไร?
A: การลงทุนด้านการศึกษาส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการศึกษา
รูปนี้จัดทำขึ้นโดย OECD อยู่ในรายงาน PISA 2012 Results: What Makes Schools Successful? Volume IV หน้าที่ 41 (คลิกอ่านได้ที่นี่ http://www.oecd.org/pisa/keyfindings/pisa-2012-results-volume-IV.pdf )
รูปนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเงินลงทุนด้านการศึกษาสะสมรวมสำหรับนักเรียนหนึ่งคนตลอดช่วงอายุ 6-15 ปี (Average spending per student from the age of 6 to 15) และผลคะแนนสอบ PISA 2012 คณิตศาสตร์ (Mathematics performance score point) สำหรับประเทศต่างๆที่เข้าร่วมสอบ PISA ในปี 2012 (PISA คืออะไร คลิกดูที่ลิ้งค์นี้ http://www.oecd.org/pisa/aboutpisa/ )
เส้นสีแดงในรูปนี้แสดงให้เห็นว่า สำหรับประเทศที่ใช้เงินด้านการศึกษาสะสมน้อยกว่า USD 50,000 ต่อหัวนักเรียน การลงทุนด้านการศึกษาส่งผลโดยตรงต่อผลคะแนนสอบ PISA ผมคัดประโยคที่น่าสนใจจากรายงาน PISA 2012 Results: What Makes Schools Successful? Volume IV หน้าที่ 40 ย่อหน้าที่ 5 บรรทัดที่ 3 มาดังนี้้ “…among countries and economies whose cumulative expenditure per student is below USD 50,000, the higher expenditure on education is predictive of higher PISA mathematics scores…”
จากจุดสีแดงที่แสดงอยู่ ประเทศไทยเราใช้เงินด้านการศึกษาสะสม USD 13,964 ต่อหัวนักเรียน และได้ผลสอบคณิตศาสตร์ที่ 426 คะแนน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าผลการสอบนี้ไม่ได้ผิดคาดแต่อย่างใด เพราะจุดสีแดงประเทศไทยอยู่บนเส้นสีแดงที่แสดงความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างเงินลงทุนและผลลัพธ์ที่ได้
Q: หากว่าไทยเรามุ่งมั่นจะยกระดับการศึกษา แตไม่มีเงินลงทุนเพิ่ม เราจะทำได้อย่างไร?
A: หากเราใช้เงินที่เรามีอยู่ไม่มากอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น “สมมุติว่าดีขึ้น 30%” ก็เท่ากับว่าเรามีอำนาจการใช้เงินลงทุนเพื่อการศึกษาเป็น USD 18,153 ต่อหัวนักเรียน (USD 13,964 x 130%) ซึ่งอาจส่งผลให้ผลสอบ PISA คณิตศาสตร์ของเราขยับขึ้นไปถึงระดับ 450 คะแนนได้ [หากเรายกระดับผลการสอบจาก 426 คะแนน ขึ้นไปถึง 450 คะแนนได้จริง (คะแนนดีขึ้นประมาณ 6%) จะทำให้ไทยเราขยับจากอันดับที่ #50 ขึ้นไป 7 อันดับไปเป็นที่ #43 อยู่หลังประเทศกรีซนิดเดียว]
สรุปสั้นๆคือ
– คุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้นจะส่งผลบวกอย่างแรงต่อเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีของคนไทยทั้งประเทศ
– การลงทุนมีผลโดยตรงต่อคุณภาพการศึกษา
– แต่หากเราไม่มีเงินเพื่อลงทุนในด้านการศึกษามากกว่านี้ เราต้องหันมาใช้เงินที่มีอยู้ให้มีประสิทธิผลมากขึ้น คุณคิดว่าประเทศไทยของเราควรจะใช้เงินเพื่อการศึกษาให้มีประสิทธิผลมากขึ้นได้อย่างไร
ลองเขียนมาแลกเปลี่ยนกันดูครับ
หมายเหตุ: อ้างอิงข้อมูลจาก
- OECD PISA 2012 Database, Table I.2.3a and IV.3.1
- Eric A. Hanushek. 2015. The Knowledge Capital of Nations. Cambridge, MA: MIT Press.
About these ads
Occasionally, some of you
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีบทความที่เกี่ยวข้อง