ทำไมการวัดประเมินอิงการปฏิบัติ (Performance-based Assessment) ถึงสำคัญกับหลักสูตรฐานสมรรถนะ

 

ทำไมการวัดประเมินอิงการปฏิบัติ (Performance-based Assessment)

ถึงสำคัญกับหลักสูตรฐานสมรรถนะ

 

 

 

 

การวัดประเมินผลมีหลายรูปแบบ นักเรียนแต่ละคนอาจไม่ได้เหมาะกับการวัดประเมินผลแบบเดียวกันอย่างเช่นข้อสอบปรนัย เพราะพวกเขามีรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน นักเรียนคนหนึ่งอาจถูกมองว่าเรียนไม่รู้เรื่อง เพียงเพราะการวัดประเมินผลของครูอาจไม่เอื้อให้เขาได้แสดงสมรรถนะออกมาอย่างที่เราคาดหวัง วันนี้ เราชวนครูมาตั้งคำถาม พร้อมหาคำตอบในเรื่องนี้ไปด้วยกัน

 

 

สิ่งที่ครูต้องทำ

ดูข้อสอบเก่า ๆ หรือข้อสอบล่าสุดที่ครูมีอยู่ แล้วดูว่าคำถามแบบไหนที่นักเรียนสามารถตอบหรือมีส่วนร่วมได้

1. คำถามที่บังคับให้ตอบ

2. คำถามผ่านการนำเสนอหรือการสาธิต

3. คำถามผ่านการจำลอง

 

จากนั้นให้ครูระบุเป้าหมายการเรียนรู้ 3 ข้อที่จะนำมาประเมิน โดยนำมาจากเรื่องที่กำลังสอนหรือกำลังจะสอน แล้วประเมินผลนักเรียนด้วยวิธีแบบเดิมและแบบฐานสมรรถนะ แล้วมาดูกันว่าข้อมูลที่ได้บอกอะไรเราบ้าง

 

◾เป้าหมายการเรียนรู้แบบใดที่ทำให้นักเรียนมีสมรรถนะดีกว่า ทั้งการประเมินผลแบบเดิมและการเรียนรู้บนฐานสมรรถนะ

- สิ่งนี้เป็นปัจจัยของเป้าหมายการเรียนรู้ หรือเป็นวิธีการประเมินผล (แบบเดิมหรือแบบฐานสมรรถนะ) ที่สร้างความท้าทายให้นักเรียนหรือไม่

- จากประสบการณ์นี้เป้าหมายการเรียนรู้ประเภทใดที่เข้ากับการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ หรือเข้ากับการประเมินผลแบบเดิมบ้าง
◾  มีนักเรียนคนไหนที่มีสมรรถนะเพิ่มมากขึ้นจากหลักสูตรฐานสมรรถนะมากกว่าการประเมินผลแบบเดิมบ้างไหม

- ทำไมหลักสูตรฐานสมรรถนะถึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพกว่าสำหรับนักเรียนเหล่านั้น

- เป็นไปได้ไหมที่เราจะทำให้โจทย์นี้ปลดล็อกศักยภาพเดียวกันในนักเรียนคนอื่นด้วย
◾ลองหาครูอีกคนที่สอนเนื้อหาวิชาเดียวกันมาช่วยกันออกแบบการประเมินครั้งต่อไป ทั้งการเรียนรู้บนฐานสมรรถนะ และการวัดประเมินผลแบบเดิม โดยครูแต่ละคนจะต้องไม่รู้ข้อมูลของนักเรียนอีกฝ่าย เช่น นักเรียนแต่ละคนจะถูกแทนที่ด้วยตัวเลขแทนการใช้ชื่อสกุลจริง จากนั้นให้ครูแต่ละคนสลับเอาคำตอบของนักเรียนตัวเองมาให้เพื่อนครูวิเคราะห์และประเมิน แล้วย้อนกลับไปดูตามขั้นตอนข้างบน เพื่อดูว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง


 

 

 

 

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

การใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะร่วมกับการวัดประเมินอิงการปฏิบัติเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้นักเรียนได้แสดงออกถึงสิ่งที่พวกเขารู้และสามารถทำได้ในรูปแบบที่หลากหลายขึ้น นักเรียนบางคนที่ก่อนหน้านี้อาจจะถูกมองว่ามีความบกพร่องทางการเรียนรู้ จริง ๆ แล้วเขาอาจจะเรียนรู้ในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเพื่อนเท่านั้น

 

 

 

แหล่งอ้างอิง

เรียนรู้เพิ่มเติม บทความการศึกษา อจท. อื่น ๆ ได้ที่   >>> คลิก <<<

เรียนรู้เพิ่มเติม บทความการศึกษา อื่น ๆ ได้ที่   >>> คลิก <<<


 
 

 

Share

Relate article